ประเภทสินค้า
ประเภทสินค้า : Apple » i phone 4 / 16 gb เครื่อง uk unlock พร้อมติดฟีล์ม และการรับประกัน 21‚900 บาท
i phone 4 / 16 gb เครื่อง uk unlock พร้อมติดฟีล์ม และการรับประกัน  21‚900 บาท
สถิติการชม : 242 ครั้ง
ปรับปรุงล่าสุด : 3/8/2554
0008
i phone 4 / 16 gb เครื่อง uk unlock พร้อมติดฟีล์ม และการรับประกัน 21‚900 บาท
 
 
 

  รายละเอียดสินค้า :

จอแสดงผลแบบ TFT LCD Capacitive Touchscreen 16,700,000 สี ความละเอียด 640x960 Pixels (326 dpi : Retina Display : กว้าง 3.5 นิ้ว)
 
เซนเซอร์ตรวจจับความเคลื่อน ไหวแบบ 3 แกน (3-Axis Gyro Sensor)
 
เชื่อมต่อ Safari Web Browser ผ่านระบบ WiFi, HSDPA, EDGE หรือ GPRS Class 10 พร้อมการเชื่อมต่อข้อมูลแบบไร้สายผ่าน Bluetooth
 
ฝาหลังแบบ Gollira Glass มีคุณสมบัติที่สามารถป้องกันรอยขีดข่วนได้ พร้อมกรอบล้อมรอบตัวเครื่องแบบ Stainless Steel
 
กล้องดิจิตอลตัวหลักที่ด้าน หลังของตัวเครื่อง ความละเอียดระดับ 5 ล้าน Pixels พร้อมการถ่ายภาพวิดีโอ (720p : WXGA : 1280x720 Pixels : 30 fps)
 
เครื่อง unlock ใส่ micro sim ใช้ได้เลย
 
  • ระบบสัญญาณ Dual Mode (WCDMA/GSM)
    - WCDMA/HSDPA Quad Band (850/900/1900/2100 MHz)
    - GSM Quad Band (850/900/1800/1900 MHz)
    - ใช้งานซิมการ์ดแบบ microSIM
  • ขนาด 115.2x58.6x9.3 มิลลิเมตร
  • น้ำหนัก 137 กรัม
  • ชนิดจอแสดงผลแบบ TFT LCD Capacitive Touchscreen 16,700,000 สี ความละเอียด 640x960 Pixels (326 dpi : กว้าง 3.5 นิ้ว)
    - มีความละเอียดคมชัดของการแสดงผลมากขึ้นเป็น 4 เท่าของ iPhone 3GS
    - ความละเอียดระดับ 326 dpi หรือที่เรียกว่า Retina Display ช่วยให้สบายตามากกว่า
    - แอปพลิเคชั่นเดิมสามารถนำมาใช้งานได้ทันที และจะมีการปรับความละเอียดคมชัดให้มากขึ้นโดยอัตโนมัติ
    - มีค่า Contrast Ratio ที่ 800:1
    - มีเทคโนโลยีจอภาพแบบ IPS เช่นเดียวกันกับเครื่อง iPad
    - เซนเซอร์ตรวจจับความเคลื่อนไหวแบบ 3 แกน (3-Axis Gyro Sensor)
    - ระบบสัมผัสแบบหลายจุด (Multi-Touch)
    - หน้าจอสามารถป้องกันรอยขีดข่วนได้ (Scratch-Resistant Display)
    - ระบบ Accelerometer Sensor ช่วยหมุนหรือปรับเปลี่ยนทิศทางการแสดงผลของหน้าจอให้แบบอัตโนมัติ ตามลักษณะการจับถือของผู้ใช้
    - ระบบ Proximity Sensor สำหรับการปิดหน้าจอแบบอัตโนมัติขณะสนทนา เพื่อประหยัดพลังงาน
  • ชนิดแบตเตอรี่ Li-Ion
  • ระยะเวลารอรับสายสูงสุด ประมาณ 300 ชั่วโมง
  • ระยะเวลาสนทนาสูงสุด ประมาณ 14 ชั่วโมง (GSM) หรือ 7 ชั่วโมง (WCDMA)
  • ระยะเวลาการฟังเพลงต่อเนื่องสูงสุด ประมาณ 40 ชั่วโมง
  • ประมวลผลการทำงานด้วย Apple A4 Processor ความเร็วในการประมวลผล 1 GHz
  • ขับเคลื่อนการทำงานด้วยระบบปฏิบัติการ iOS 4 (มีพื้นฐานอยู่บนระบบปฏิบัติการ Mac OS)
    - รองรับการเปิดใช้งานหลายโปรแกรมในเวลาเดียวกัน (Multi-Tasking)
    - ผู้ใช้ iPhone 3G และ 3GS สามารถอัพเกรดระบบปฏิบัติการให้เป็น iOS4 ได้ เริ่มตั้งแต่วันที่ 21 มิถุนายน เป็นต้นไป ส่วนผู้ใช้ iPhone 2G ไม่สามารถอัพเกรดได้
  • หน่วยความจำภายในขนาด 16 GB หรือ 32 GB
  • หน่วยความจำสมุดโทรศัพท์ (ไม่จำกัดจำนวน)
  • บันทึกข้อมูลการโทรอย่างละ 100 รายการ (โทรออก, รับสาย, ไม่รับสาย)
  •  
     
     
  • SMS (Short Messaging Service)
  • MMS (Multimedia Messaging Service)
  • Email (POP3, SMTP, IMAP4)
    - รองรับการใช้งานระบบ Push Email
  • ระบบสะกดคำอัตโนมัติ (T9)
  •  
     
     
  • HTML Browser (Safari Web Browser)
    - รองรับแบนเนอร์โฆษณาแบบ iAds
  • WiFi (WLAN : Wireless LAN : 802.11 b/g/n)
  • HSDPA (7.2 Mbps) : HSUPA (5.76 Mbps)
  • EDGE Class 10 (236.8 kbps)
  • GPRS Class 10 (4+1/3+2 slots : 32 - 48 kbps)
  • Bluetooth เวอร์ชัน 2.1
    - รองรับการเชื่อมต่อใช้งานกับหูฟัง Bluetooth แบบ Stereo (A2DP)
  • USB Data Cable (USB เวอร์ชัน 2.0)
  • ระบบ GPS ในตัว (Global Positioning System : ระบบดาวเทียมนำร่อง)
    - ฟังก์ชัน A-GPS ในตัว (Assisted Global Positioning System)
    - ค้นหาข้อมูลแผนที่ผ่านโปรแกรม Google Maps
    - โปรแกรมเข็มทิศดิจิตอล (Digital Compass)
  • ช่องต่อสายหูฟังมาตรฐานขนาด 3.5 มิลลิเมตร
  • รองรับการเชื่อมต่อแสดงผลผ่านทางหน้าจอโทรทัศน์ (TV Out)
  • ค้นหาข้อมูลผ่านโปรแกรม Google Search, Yahoo และ Bing
  • รองรับการใช้งาน Youtube
  • โปรแกรม MobileMe สำหรับดึงข้อมูลใหม่ ไม่ว่าจะเป็น อีเมล, รายชื่อผู้ติดต่อ และปฏิทินนัดหมาย มาไว้ในเครื่อง
  •  
     
     
  • เสียงเรียกเข้าแบบ Polyphonic Ringtones
    - รองรับไฟล์เสียงเรียกเข้าแบบ MP3
    - แสดงรูปภาพขณะมีสายเรียกเข้า (Photo Caller ID)
    - ระบบสั่นในตัว
  • นาฬิกาบอกเวลา
  • ตั้งปลุก
  • โปรแกรม Organizer
  • ปฏิทินพร้อมบันทึกนัดหมาย
  • เครื่องคิดเลข
  • โปรแกรมเล่นไฟล์เพลง
  • โปรแกรมเล่นไฟล์วิดีโอ
    - โปรแกรม iMovie
  • โปรแกรมตัดต่อเสียง และวิดีโอ
  • โปรแกรม iBooks
  • เทคโนโลยี Noise Cancellation พร้อมไมโครโฟนสำหรับการสนทนาโดยเฉพาะ ช่วยให้เสียงสนทนาคมชัดแม้อยู่ในสภาพแวดล้อมที่มีเสียงรบกวนมาก
  • สั่งงานด้วยเสียง
  • โทรออกด้วยเสียง
  • Handsfree และ Speakerphone ในตัว
  •  
     
     
  • ฝาหลังแบบ Gollira Glass มีคุณสมบัติที่สามารถป้องกันรอยขีดข่วนได้
  • กรอบล้อมรอบตัวเครื่องแบบ Stainless Steel ช่วยเพิ่มความแข็งแรง และใช้งานเป็นเสารับสัญญาณในตัว
  • กล้องดิจิตอลตัวหลักที่ด้านหลังของตัวเครื่อง ความละเอียดระดับ 5 ล้าน Pixels
    - ความละเอียดสูงสุดของภาพถ่าย 2592x1944 Pixels
    - เซนเซอร์รับภาพแบบ Backside Illuminated Sensor
    - ไฟแฟลชในตัว (LED Flash)
    - ซูมภาพแบบดิจิตอลได้ 5 ระดับ (Digital Zoom)
    - ระบบโฟกัสภาพอัตโนมัติ (Auto Focus)
    - ระบบเลือกจุดโฟกัสภาพด้วยการสัมผัส (Touch Focus)
    - ถ่ายภาพวิดีโอ (720p : WXGA : 1280x720 Pixels : 30 fps)
    - ไฟให้แสงสว่างสำหรับการถ่ายภาพวิดีโอ (LED Video Light)
    - ฟังก์ชัน Geotagging รองรับการแนบข้อมูลพิกัดตำแหน่งบนพื้นโลกไปกับรูปถ่าย และวิดีโอ
  • กล้องดิจิตอลขนาดเล็กที่ด้านหน้าของตัวเครื่อง
    - รองรับการใช้งานฟังก์ชัน Video Calling บนระบบเครือข่ายแบบ WiFi (สนทนาพร้อมภาพวิดีโอ)
  • เกมส์ในเครื่อง
    - รองรับการควบคุมการเล่นเกมส์ด้วยการเคลื่อนไหว (Motion-Sensitive Gaming)
  • มี 2 สีมาตรฐานให้เลือก (ดำ และ ขาว)
  • เปิดตัวครั้งแรก เมื่อ เดือนมิถุนายน ปี ค.ศ. 2010
  • กำหนดการออกวางจำหน่าย เดือนมิถุนายน ปี ค.ศ. 2010 (สหรัฐอเมริกา, ฝรั่งเศส, เยอรมัน, อังกฤษ และญี่ปุ่น)
    - สั่งจองล่วงหน้าได้ในวันที่ 15 มิถุนายน และรับของได้ในวันที่ 24 มิถุนายน
    - ประเทศอื่นๆ อีก 18 ประเทศ สามารถสั่งจองได้ในเดือนกรกฎาคม และอีก 88 ประเทศทั่วโลก สามารถสั่งจองได้ในเดือนกันยายน
  •  

     

    ทั่วไป

    สำหรับตัวเครื่อง iPhone 4  ตัวที่ได้จับมาจากอังกฤษซึ่งเป็นเครื่อง Official Unlock คือสามารถนำซิมการ์ดของค่ายมือถือใดก็ได้มาใส่ เท่าที่ได้จับงานประกอบแน่นดี ของในกล่องยังคงคล้าย ๆ เดิม ด้านความเร็ว iPhone 4 เร็วขึ้นกว่า iPhone 3GS แบบรู้สึกได้ โดยความเร็วให้นึกง่าย ๆ เหมือนตอน iPhone 3G แล้วเปลี่ยนมาเป็น iPhone 3GS ยังไงยังงั้น คือเร็วขึ้นแบบกดปุ๊บมาปั๊บ การใช้านทั่วไปใน iOS 4 ของ iPhone 4 ตอนนี้ถ้าไม่นับเรื่องความเร็วในการใช้งานก็ไม่ต่างจาก iPhone 3GS สักเท่าไหร่ สำหรับความหนาของ iPhone 4 จะพอ ๆ กับขอบตัวเครื่องพลาสติกสีขาว(ดำ) ของ iPhone 3GS

    กล้อง

    การใช้งานกล้องหลัก ๆ ก็ยังเหมือนเดิม คือเปิดมารอประมาณ 1 วินาทีก็เข้ากล้องพร้อมถ่ายรูปทันที การเปิดใช้งานแฟลชเพื่อช่วยในการถ่ายรูปสามารถเลือกได้ 3 แบบคือ Off/On/Auto ซึ่งแสงจะวาบแค่ตอนกดถ่ายรูปเท่านั้น การสลับกล่้องหลังกับกล้องหน้ากดปุ๊บก็แทบจะสลับปั๊บสามารถสลับไป ๆ มา ๆ ได้เรื่อย ๆ ไม่หน่วงแต่อย่างใด สำหรับเรื่องการถ่ายวิดีโอสามารถเปิดแสงเพื่อช่วยถ่ายในที่มืดได้ ซึ่งตัวไฟจะติดขึ้นมาตลอดตั้งแต่เลือกเปิด (On) สำหรับเรื่อง FaceTime อยากทดลองมาก แต่ไม่รู้จะลองกับใครที่ไหน เพราะรอบตัวผมเองยังไม่มีใครใช้ iPhone 4 ก็เลยขอติดค้างเรื่องนี้ไว้ก่อน

    ส่วนที่เห็นในรูป (หลังจากใส่ซิมของทีโอที) ที่มี SMS ขึ้นว่า “Your Carrier may charge for SMS message used to activate video calling” จากข้อความนี้ยังไม่รู้ว่าแอปเปิ้ลจะเปิดให้ iPhone 4 สามารถใช้งาน Video Call กับโทรศัพท์อื่น ๆ ได้หรือไม่ เรื่องนี้คงต้องติดตามดูกันต่อไป

    เสียงจากลำโพง

    เท่าที่เปิดเสียงริงโทนในเครื่องเทียบกับ iPhone 3GS ความดังของลำโพงจาก iPhone 4 ดังกว่าเดิมนิดหน่อย ราว ๆ 10 เปอร์เซ็นต์

    หน้าจอแสดงผล

    ความชัดของจอ Retina Display สิบรูปถ่ายไม่เท่าตาเห็นครับ ชัด(เวอร์)มาก คือไม่ต้องจ้องแบบเพ่งก็เห็นความแตกต่างแล้วว่า iPhone 4 ชัดกว่า ซึ่งก่อนหน้าได้ผมเชื่อว่าเราคงได้เห็นภาพเปรียบเทียบหน้าจอระหว่าง iPhone 4 กับ iPhone 3GS กันมาบ้างแล้ว โดยภาพจากบางเว็บใช้กล้องระดับเทพในการถ่ายรูป (5D mk II) ซึ่งคิดเองว่ากล้องถ่ายรูปน่าจะมีส่วนช่วยให้รูปชัดกริ๊บขนาดนั้น ทำให้ผมยังไม่ปักใจเชื่อว่าหน้าจอจะแตกต่างกันเยอะขนาดนั้น แต่พอได้เห็นกับตาตัวเองเห็นชัดเจนมากว่าแตกต่างกัน จากที่เราใช้งานกับ iPhone 3GS เวลาอ่านหรือดูรูปก็ชัดเจนปกติดีอยู่แล้ว แต่พอนำมาเปรียบเทียบกับจอของ iPhone 4 แล้ว จอของ iPhone 3GS ดูเหมือนจะเบลอ ๆ ไปในทันที

     

    สำหรับตัวหนังสือ ‘คมมาก’ ชนิดที่เรียกว่าแทบจะไม่ต่างจากที่เห็นในนิตรสารแฟชั่นทั่วไปที่พิมพ์ความ ละเอียดที่ 300 dpi ซึ่งผมเองก็ทำแบบเดียวกับหลาย ๆ เว็บในตอนนี้คือถ่ายรูปหน้าจอ iPhone 4 เทียบกับ iPhone 3GS มาให้ชมกันครับ ส่วนการเทียบจอ iPhone 4 (Retina Display) กับ Samsung Galaxy S (Super AMOLED) เอาว่า Super AMOLED ที่เห็นว่าชัด,นิ่ง,ใสแค่ไหน จอ Retina Display เป็นขั้นกว่าของ Super AMOLED ครับ

     

     

    สัญญาณโทรศัพท์

    ที่เห็นจากเว็บต่างประเทศหลาย ๆ เว็บที่ลงข่าวว่าเวลาจับเครื่องถือมือซ้ายแล้วสัญญาณโทรศัพท์หายนั้น วันนี้ได้ลองเองแล้วครับ ผลปรากฏว่าไม่ว่าจะจับถือหรือกำมิดรอบด้านยังไงสัญญาณก็ไม่หายเหมือนที่เป็น ข่าวอยู่ในขณะนี้ ซึ่งคงเป็นโชคดีที่ iPhone 4 เครื่องนี้ไม่พบอาการผิดปกติ

    ถามว่าประทับใจหรือไม่กับ iPhone 4 กับการใช้อยู่ในเวลาไม่นานมากนัก ก็ชอบครับโดยเฉพาะเรื่องหน้าจอที่แสดงผลที่ชัด(เวอร์)มาก ส่วนถ้าจะให้ถึงขั้นปลื้มคงต้องทดสอบใช้งานจริง ๆ จัง ๆ ก่อนครับถึงจะตอบได้ว่า iPhone 4 ดีกว่าเดิมมากน้อยแค่ไหน เพราะหลายอย่างผมยังไม่ได้ลองใช้งานจริง ๆ จัง ๆ ไม่ว่าจะเป็น FaceTime, การถ่ายรูปนิ่งจริง ๆ จัง ๆ , การถ่ายวิดีโอแบบ HD+iMovie โดย 3เรื่องนี้ถือเป็นฟีเจอร์หลัก ๆ ที่หลายคนอยากจะทราบข้อมูลก่อนตัดสินใจซื้อ iPhone 4

    Advertising Zone    Close
     
    Online:  1
    Visits:  27,574
    Today:  10
    PageView/Month:  62

    ยังไม่ได้ลงทะเบียน

    เว็บไซต์นี้ยังไม่ได้ลงทะเบียนยืนยันการเป็นเจ้าของเว็บไซต์กับ Siam2Web.com